‘ข้าบดินทร์’ ละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ ‘เจมส์ มาร์’ ประกบคู่ ‘แมท-ภีรนีย์’ | เดลินิวส์
„‘ข้าบดินทร์’ ละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ ‘เจมส์ มาร์’ ประกบคู่ ‘แมท-ภีรนีย์’“
„หลังจากที่เดินหน้าถ่ายทำกันมาเป็นเวลานาน กับละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ สุดอลังการ “ข้าบดินทร์” ของผู้จัดมากฝีมือแห่งค่ายทีวีซีน “พี่ปิ่น–ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์” ที่จะมาเอาใจแฟนละครพีเรียด ด้วยการจับพระเอกรูปหล่อ “เจมส์ มาร์” ประกบคู่นางเอกคิวทอง “แมท-ภีรนีย์” ที่มาแต่งองค์ทรงเครื่อง ชุดไทยสมัยโบราณ แบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว “ข้าบดินทร์” บทประพันธ์ของ วรรณวรรธน์ กำกับการแสดงโดย อรรถพร ธีมากร บทโทรทัศน์ เอกลิขิต งานนี้บอสใหญ่ “พี่ปิ่น ณัฏฐนันท์” ยังทุ่มทุนสร้างฉากสวย ๆ ที่ใช้ในการถ่ายทำ เก็บมาฝากให้แฟน ๆ ได้ชมกันอย่างจุใจ และยังได้นำทัพนักแสดงมากความสามารถ มาร่วมสร้างความสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็น มณีรัตน์ ศรีจรูญ, โชคชัย บุญวรเมธี,จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, จินตหรา สุขพัฒน์, ดิลก ทองวัฒนา, สาวิตรี สามิภักดิ์, อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล, ดนัย จารุจินดา, อรรถพร ธีมากร, ชุมพร เทพพิทักษ์ ฯลฯ “พี่ปิ่น ณัฏฐนันท์” พูดถึงละครเรื่องนี้ว่า “ข้าบดินทร์ เป็นละครพีเรียดที่หนักพอสมควร เพราะด้วยโลเกชั่นต่าง ๆ เราก็ต้องไปถ่ายทำกันตามต่างจังหวัดก็จะดูลำบากกันนิดหนึ่ง และอีกอย่างเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับช้าง ซึ่งมันก็ค่อนข้างหนักอยู่แต่สำหรับพี่ พี่ก็เต็มที่นะ เพราะพี่ต้องการให้มันออกมาดูดีที่สุด ด้วยเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างชัดเจน ทั้งโรแมนติก ดราม่า คือ เป็นละครพีเรียดที่มีครบทุกองค์ประกอบแล้วมารวมอยู่ในข้าบดินทร์ พี่บอกเลยว่าแฟน ๆ ละครพ่อเหมกับแม่ลำดวนต้องดู งานนี้มีน้ำตาไหลแน่” ด้าน “หนุ่มเจมส์ มาร์” เผยว่า “ในเรื่องเล่นเป็นทหาร ด้วยบทหรือตัวละครที่คนคนนี้ต้องเจอผมว่ามันเป็นอะไรที่ยากคือต้องมีติดคุกด้วย เป็นละครที่สะท้อนถึงความรักชาติ เป็นคนทำงานเพื่อชาติ คือผมว่าต้องดูนะครับรับรองสนุกแน่นอน” นางเอกสาว “แมท ภีรนีย์” เผยว่า “แมทได้อ่านนิยายแล้วก็ต้องยอมรับว่ามันค่อนข้างจะไกลตัวมากไม่ใช่แมทเลย นึกภาพตัวเองเป็นลำดวนไม่ออกเลย นึกน้ำเสียงท่าทางการเดินไม่ออกพอยิ่งไปเข้าฉากวันแรกมันก็ยิ่งกดดัน วันแรกถ่ายหลายเทคมาก พูดยากขยับตัวยากทำอะไรยากทุกอย่าง แต่ว่าก็อยากให้เปิดใจรับ เพราะว่าเจมส์กับแมทตั้งใจมากค่ะ” แฟนละครอย่าพลาดเชียว! ติดตามชมละคร “ข้าบดินทร์” ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15-22.30 น. ทางช่อง 3. ธพัชรินทร์ : รายงาน ..................................................... ‘ข้าบดินทร์’ เหม (เจมส์ มาร์) บุตรชายคนเดียวของ พระยาบริรักษ์ (จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์) และ คุณหญิงชม (จินตหรา สุขพัฒน์) เหมมีหน้าที่คอยดูแลจัดเก็บค่าระวางจากเรือที่ขนสินค้าเข้ามาในประเทศสยาม เขามีความสนใจในเรื่องของชาววิลาศ (อังกฤษ) เป็นอย่างมาก เพราะในเมืองปากน้ำมีแต่ชาววิลาศมาอาศัยอยู่จำนวนมาก เนื่องจากเป็นเมืองท่าสำคัญ แต่ชาวบ้านกลับหวาดกลัวชาววิลาศ เพียงเพราะมีรูปร่างหน้าตา สีผม สีผิว ต่างจากคนทั่วไป พระยาบริรักษ์ทราบว่าเหมไปตีสนิทกับชาววิลาศก็ไม่พอใจ เลยส่งเหมไปเรียนวิชากับพระครูโพ (ชุมพร เทพพิทักษ์) เจ้าอาวาสวัดท้ายน้ำ เพื่อที่จะแยกเหมออกจากพวกวิลาศ หลวงสรอรรถ (อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) เข้ามาเจรจากับพระยาบริรักษ์ เพื่อขอให้ลดค่าระวางปากเรือให้กับเรือของกะปิตันฝรั่ง แต่กลับไม่เป็นผล ทำให้หลวงสรอรรถไม่พอใจมาก หลวงสรอรรถบังเอิญได้พบกับ ทับทิม (มรกต หทัยวสีวงศ์) บัว (มณีรัตน์ ศรีจรูญ) และ ลำดวน (ภีรนีย์ คงไทย) บุตรสาวของ ขุนนาฏยโกศล (ดิลก ทองวัฒนา) กับ คุณปิ่น (สาวิตรี สามิภักดิ์) และเกิดชอบใจในความงามของบัว จึงคิดจะเข้าทาง เจ้าพระยาพระคลัง (วิวัฒน์ ผสมทรัพย์) แทน โดยผ่านทางปิ่นมารดาของสามสาว และในขณะนั้นเองแหม่มมาเรีย ฝรั่งชาววิลาศ ที่เป็นผู้สอนภาษาวิลาศให้กับเหม เกิดป่วยเป็นโรคฝีในท้องและต้องใช้ฝิ่นในการรักษา สามีของเธอจึงแอบนำฝิ่นเข้ามาเพื่อรักษาอาการของแหม่มมาเรีย แต่พระยาบริรักษ์ไม่เห็นชอบด้วย หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้น พระยาบริรักษ์ถูกตัดสินให้ทวนหวาย 50 ที ริบราชบาตร แล้วเอาตัวพร้อมกับลูกเมียไปเป็นตะพุ่นหญ้าช้าง พระยาบริรักษ์ทนการถูกลงทัณฑ์ไม่ไหว จึงเสียชีวิตลงในที่สุด 9 ปีผ่านไป พระยาบดินทรเดชา ได้เกณฑ์ไพร่พลขึ้นไปยังเมืองพัตบอง เพื่อเตรียมรับมือกับญวน คณะปี่พาทย์ละครของขุนนาฏยโกศล ก็ถูกเกณฑ์ตามไปแสดงให้ขุนนางผู้ใหญ่ดูด้วย หมื่นวิชิตชลหาญ (โชคชัย บุญวรเมธี) หลานชายของ พระยานครนายก เกิดหลงรักลำดวน แต่ลำดวนไม่เล่นด้วย ก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะเอาชนะใจลำดวน ขณะนั้น ขุนศรีไชยทิตย (สุเชาว์ พงษ์วิไล) มาโพนช้างอยู่ละแวกเมืองโคราช โพนช้างหนึ่งในนั้นก็มีเหมซึ่งมีหน้าที่เป็น “เสดียง” ด้วย แต่ลำดวนจำเหมไม่ได้ เหมพยายามคอยดูแลและกันท่าหมื่นวิชิตให้ลำดวน ลำดวนรู้สึกคุ้นเคยกับเหมอย่างประหลาด หมื่นวิชิตยังคงไม่ละทิ้งความพยายาม โดยการปรึกษากับพรรคพวกหาวิธีให้ได้ลำดวนมาเป็นเมีย จึงจ้างวานคนให้ไปจับลำดวนมาให้ แต่เหมช่วยไว้ได้ ขุนนาฏยโกศลเมื่อทราบเรื่องจึงเรียกเหมเข้าไปขอบคุณ ก่อนที่จะจำได้ว่าแท้จริงแล้วเหมคือลูกชายของพระยาบริรักษ์ และภายหลังเหมได้เข้าร่วมประลองกับ ขุนสิทธิสงคราม (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) จนได้รับชัยชนะ และได้เป็นทหารในกองทัพทันที ทัพของเจ้าพระยาพระคลัง มาสมทบกับทัพของพระยาบดินทรเดชา ในการร่วมมือกันตีค่ายญวนที่ปากคลองวามะนาว เหมเป็นผู้ออกอุบายเข้าตีจนค่ายของข้าศึกแตกพ่ายเป็นผลสำเร็จ ทำให้ได้รับความดีความชอบเป็นอย่างมาก พระยาบดินทรเดชาจึงทำหนังสือขอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ปลดเหมกับคุณหญิงชมจากการเป็นตะพุ่นหญ้าช้างให้ ตอนนี้เหมได้รับบรรดาศักด์เป็น หมื่นสุรบดินทร์ เหมสามารถลบล้างมลทินให้ตัวเองได้ คุณหญิงชมดีใจมากที่เหมประกอบคุณงามความดีจนได้ปลดตะพุ่น เหมได้พบกับลำดวนและบัวอีกครั้ง ในช่วงที่มีงานพระเมรุในพระนคร เมื่อบัวได้พบเหมก็รู้สึกอิจฉาที่ลำดวนได้หัวใจของเหมไป เพราะบัวเคยมีใจให้กับเหม หมื่นวิชิตรู้ว่าบัวเคยมีใจให้กับเหม จึงยุยงให้บัวทำเสน่ห์ใส่เหม แต่กลับถูกจับได้คาหนังคาเขา บัวจึงอับอายมาก และได้อุทิศตนให้พระพุทธศาสนาเพื่อชดใช้กรรมต่อไป และเหมก็ได้เดินหน้าปฏิบัติภารกิจเพื่อรับใช้ประเทศชาติต่อไป เขายินดีและเต็มใจทำในฐานะ “ข้าแห่งบดินทร์” เรื่องราวของเหมจะเป็นอย่างไร เหมและลำดวนจะได้ลงเอยกันหรือไม่ ติดตามชมได้ในละคร “ข้าบดินทร์” ทางช่อง 3. “
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/entertainment/324720